“พระปกเกล้า”ชี้ “มาบตาพุต” เข้าครม.พรุ่งนี้ไม่ใช่ทางออก
ออกมาตรการด่วน 4 ข้อ ขจัดสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
“พระปกเกล้า”ชี้ “มาบตาพุต” เข้าครม.พรุ่งนี้ไม่ใช่ทางออก เผยแก้ปัญหาไม่ได้ แนะ 2ฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน อย่าไปพึ่งศาลตัดสินแพ้ชนะ ออกมาตรการด่วน 4 ข้อ ขจัดสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ แก้ปัญหาต้องเป็นธรรม บูรณาการชุมชน-โรงงาน และเปิดเวทีถกปัญหารอบด้าน
ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ ผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันพระปกเกล้า ด้านสุขภาวะ กล่าวถึงทางออกในการแก้ปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่ศาลปกครองสั่งระงับการลงทุนในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดทั้ง76 โครงการว่า ความขัดแย้งระหว่างโรงงานอุตสาหกรรมและชุมชนเป็นปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการนำเข้าครม. ในวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) เพื่อหาข้อยุติจึงไม่ใช่ทางออกที่จะทำได้ ดังนั้นสถาบันสันติศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงร่วมกับนักวิชาการทางด้านระบาดวิทยามหาวิทยาลัยขอนแก่นาและสถาบันพระปกเกล้า จัดทำ “โครงการศึกษากระบวนการสมานฉันท์เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะในสังคมไทย”ในเขตพื้นที่จังหวัดระยอง ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อสร้างต้นแบบให้เกิดความสงบสุขและได้ประโยชน์ทั้งโรงงานอุตสาหกรรมและประชาชน
ศ.นพ. วันชัย กล่าวว่า การรวบรวมความคิดเห็น พบว่า ทั้งสองฝ่ายเปิดกว้างสนใจ พร้อมยอมรับฟัง เพราะต้องการยุติปัญหา ซึ่งประเด็นเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายต้องการให้เกิดคือ 1.หาแนวทางในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม อาทิ ปัญหาเรื่องดิน น้ำ อากาศ เสียง แสง ฝุ่นละออง เศรษฐกิจ สังคม และแรงงาน โดยทุกฝ่ายต้องใช้หลักความจริงใจ 2.ให้ความรู้กับโรงงานอุตสาหกรรมและชุมชนในการดำรงชีวิตอย่างเป็นธรรม โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสุขภาพ เช่นการรักษาพยาบาล ที่อยู่อาศัย 3.ตั้งคณะทำงานเพื่อบูรณาการแก้ปัญหาของชุมชนและบริเวณรอบโรงงาน เพื่อให้เกิดความไว้วางใจร่วมกัน โดยจัดตั้งเป็นศูนย์กลางบริการข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับมลพิษ รวมทั้งมีงบประมาณสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง 4. มีการเปิดโอกาสให้แสดงความคิดที่สร้างสรรค์โดยมีการจัดเสวนาเพื่อหาแนวทางแก้ไขในประเด็นอื่นต่อไป
“ปัญหาคือ 2 ฝ่าย ไม่ยอมหันหน้าเข้าหากัน ไม่ประนีประนอม แต่จะตัดสินปัญหาโดยการไปพึ่งศาลซึ่งศาลก็ต้องตัดสินคนแพ้คนชนะ การลงไปหาข้อมูลพบว่าคนในพื้นที่ไม่ได้รังเกียจการตั้งโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งทุกฝ่ายควรรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน ไม่ใช่ใช้การยกมือโหวตเพราะตอนนี้รัฐบาลทำหน้าที่เป็นเหมือนกรรมการที่ต้องอยู่ตรงกลางของปัญหา หากจะหวังพึ่งคงจะหาข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาได้ยาก” ศ.นพ. วันชัย กล่าว
ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น